วันศุกร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2553

คนตัดไม้กับเทพารักษ์

คนตัดไม้กับเทพารักษ์
คนตัดไม้นั่งร้องไห้อยู่ริมลำธารเพราะทำขวานตกลงไป เทพารักษ์สงสารจึงลงไปงมเอาขวานทองคำมาให้คนตัดไม้เป็นคนซื่อจึงตอบว่าขวานทองนั้นไม่ใช่ของตน ครั้นเทพารักษ์งมเอาขวานเงินมาให้ เขาก็ไม่รับเทพารักษ์จึงงมเอาขวานเหล็กธรรมดาๆ มาให้ คนตัดไม้จึงดีใจ บอกว่าเป็นขวานของตนเทพารักษ์ชื่นชมในความซื่อตรงของคนตัดไม้ จึงมอบ ขวานทองเเละขวานเงินให้เป็นของขวัญคนตัดไม้ดีใจ กลับบ้านไปเล่าให้เพื่อนฟังเพื่อนคนนั้นเป็นคนโลภ จึงรีบเข้าป่าไปตัดไม้เเล้วเเกล้ง ทำขวานตกลงไปในลำธารเพื่อให้เทพารักษ์มาช่วยบ้าง เมื่อเทพารักษ์ปรากฏกายมาช่วยงมเอาขวานทองคำมาให้ ชายโลภก็รีบตอบรับว่านั่นคือขวานของเขา เทพารักษ์กริ้วที่ชายผู้นั้นพูดเท็จเพราะโลภมากจึงไม่ยอมให้ ขวานทองคำเเก่เขา ปล่อยให้เขานั่งร้องไห้เลียดายขวานเหล็ก ตามลำพัง
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความซื่อย่อมนำความเจริญให้ได้ดีกว่าความโลภ

นกกระเรียนกับหมาป่า

นกกระเรียนกับหมาป่า

นกกระเรียนเห็นหมาป่านอนดิ้นทุรนทุรายอย่างเจ็บปวดที่กลางป่า จึงเข้าเข้าไปถามไถ่อย่างเวทนาว่า "เจ้าเป็นอะไรหรือ""ข้ากลืนชิ้นเนื้อเข้าไป กระดูกติดคอข้า ทำอย่างไรก็ไม่ออก"หมาป่าบอกเเล้วก็ขอร้องให้นกกระเรียนช่วยตนด้วย เเล้วตน จะให้รางวัลอย่างงามเป็นการตอบเเทนนกกระเรียนจึงยื่นคออันยาวเรียวของมันเข้าไปในปากหมาป่า เเละสามารถล้วงเอากระดูกออกมาได้สำเร็จ  เมื่อนกกระเรียนทวงถามถึงรางวัล หมาป่าก็คำรามว่า "ข้าไม่งับคอเจ้าขาดตายก็ดี เเล้ว ยังจะมาเอาอะไรจากข้าอีก เล่า"
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คนเลวมักไม่เห็นความดีของผู้อื่น 

ผึ้งขอพร

ผึ้งขอพร
พระอิศวรตรัสถามผึ้งที่มักจะนำน้ำผึ้งสดๆ เต็มรวงมาถวาย อยู่เสมอว่า "เจ้าอยากได้พรใด จงขอมา ข้าจะให้พรเเก่เจ้า" "ข้าอยากได้เหล็กในพระเจ้าข้า เมื่อต่อยเหล็กในมีพิษใส่ใคร ผู้นั้นต้องตายทันที"คำขอของผึ้งทำให้พระอิศวรทรงกริ้วที่ผึ้งคิดทำร้ายผู้อื่น เเต่พระองค์ก็ทรงจำต้องให้พรตามที่ลั่นวาจาไว้"ได้ ข้าจะให้พรเเก่เจ้า เเต่คนหรือสัตว์ที่ถูกเจ้าต่อยจะไม่ตาย ในทันที ส่วนเจ้านั้นเมื่อปล่อยเหล็กในเมื่อใดก็ต้องตายเมื่อนั้น"
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ผู้ที่ขอให้เทพยดาทำร้ายผู้อื่น มักต้องได้รับกรรมด้วย

ชายโง่กับต้นไผ่

ชายโง่กับต้นไผ่

            เมื่อบิดาตายแล้วชายผู้โง่เขลาเบาปัญญาก็นั่งมองต้นไผ่ที่บิดาปลูกไว้รอบๆ สวน พลางคิดว่า "ไม่เห็นมีประโยชน์อะไรเลย ไม่มีดอกไม่มีผลให้เก็บไปขาย"คิดดังนั้นชายโง่ก็ให้คนงานตัดต้นไผ่ทิ้งจนหมด  หลังจากนั้นสัตว์ต่างๆ และคนพเนจรก็พากันเข้าออกในสวนอย่างสะดวก สบาย   สวนผลไม้จึงได้รับความเสียหาย ทั้งถูกขโมยผล ทั้งถูกเหยียบย่ำทำลาย ในที่สุดผลไม้ก็ตายหมดทั้งสวนเพราะไม่มีต้นไผ่ที่เป็นเสมือนรั้วล้อมรอบ ป้องกันภัยอย่างแต่ก่อน
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ของทุกสิ่งย่อมมีประโยชน์ในทางที่แตกต่างกัน

เเมงป่องกับเด็ก

เเมงป่องกับเด็ก
เเม้จะจับจักจั่นได้มากถึง ๑๐ ตัวเเล้ว เเต่เด็กน้อย จอมซน ก็ยังสนอกสนใจ เเมงป่องตัวเขื่อง ที่เกาะอยู่ บนตอไม้ริมทาง  "อย่าจับข้านะ ข้ามีเหล็กในที่ร้ายกาจที่สุดรู้หรือไม่ "เเมงป่องร้องเตือน พลางชูหางขึ้นขู่ เเต่เด็กจอมซน กลับถามว่าทำไมตนต้องกลัวเหล็กในด้วย  เเมงป่องจึงว่าถ้าถูกต่อยด้วยเหล็กใน นอกจาก จะเจ็บปวดเเล้ว ยังจะต้องเสียจักจั่นนับสิบตัวอีกด้วย   เเต่ด้วยความซน เด็กน้อยจึงเอื้อมมือไปจับเเมงป่อง เเล้วก็ถูกเเมงป่องต่อยใส่มือจนปวดนัก ต้องสะบัดมือ โยนจักจั่นทั้งหมดทิ้งไป
นิทานเรื่องรี้สอนให้รู้ว่า ความไม่รู้จักพออาจนำหายนะมาให้